ขณะนั้นปัญหาของสามจังหวัดชายแดนได้ มีความรุนแรงมาก ทำให้การเดินทางไปมาของข้าราชการมีความเสี่ยงสูง นายอำเภอ ทั้ง 60 กว่าอำเภอจะต้องมีการประชุมกัน (อันนี้ไม่ทราบว่า ทุกๆ อาทิตย์หรือไม่) ตลอด ซึ่งทำได้ลำบากมาก จึงมาการเสนองบประมาณเพื่อนการจัดซื้อระบบ Video Conference จากบริษัทๆ หนึ่ง (อันนี้ไล่ๆ ก็น่าจะรู้แหละ แต่ไม่ขอพูดถึง)
เมื่อจัดซื้อระบบเข้ามาแล้ว ก็พบว่า Video Conference นั้นเป็นแบบ Video Phone คือสามารถโทรติดต่อกันไปยังปลายทางได้ เช่น นายอำเภอ ก.ไก่ โทรไปหา นายอำเภอ ขอไข่ เอ๊ย ข.ไข่ แล้วคุยกันสองสาย ได้เท่านั้น ไม่สามารถทำ Conference room ได้ ซึ่งต่างจากระบบ ห้องประชุมเสียง ที่ Mix เสียงเข้าหากันก็ใช้ได้แล้ว Video นั้นนอกจาก Mix เสียงเข้าหากันแล้วยังต้องทำ Mosaic Video เช่นในห้องมีสี่คน ก็แบ่งสี่คนออกเป็น thumb nail 2x2 เป็นต้น
ระบบที่ว่า ปกติถ้าซื้อของต่างประเทศเช่น Tandberg, Polycom, Cisco Telepresence พวกนี้ราคาเกิน 10 ล้านทั้งสิ้น แน่ละให้ผมทำ ย่อมถูกกว่า ด้วยการพึ่งพา Asterisk ที่เก่งสุดเรื่อง VOIP สำหรับการทำ Audio mixing (ใช้ meeting room) กับ Registar server รวมถึงการส่งผ่าน RTMP packet มาที่ Server ที่ผมสร้างขึ้นสำหรับการทำ Video mixing ทำให้โครงการนี้สำเร็จในเวลา สองเดือนเศษๆ (เป็นตอนนี้คงเขียน Freeswitch module มั๊ง)
Hardware ที่ใช้ตอนนั้นเป็น Core 2 Duo RAM ใส่เต็ม 4GB รับ ผู้ใช้ได้พร้อมๆ กัน 60 Participants บอกได้คำเดียว มหัศจรรย์...!!!
ผมทำ Admin config แบบ realtime ด้วย Adobe Flex (ตอนนั้นเขียน Web App ไม่เป็น ก็เลยใช้ Flash นี่แหละ) แล้วอาศัย Flex Socket เปิด Telnet port เรียก command ผ่าน Asterisk ทำให้สามารถควบคุม Conference Room ได้แบบ Realtime เช่น
- กำหนดรูปแบบห้องแบบ 2x2, 3x3, 4x4 ...
- สามารถกำหนดให้ใครในห้องออกเสียง หรือเงียบได้ (เพียงปุ่มเดียว)
- สามารถส่งข้อความไปยังผู้เข้าร่วม โดยส่งข้อความแตกต่างกันได้ (เป็นอักษรวิ่งด้านล่างจอ) อ้อ เป็นภาษาไทยนะครับ
- และอื่นๆ อีก จำไม่ได้ละ
นอกจากนี้ ผู้เข้ารวมประชุมยังสามารถกดปุ่มที่หน้าเครื่องเพื่อร้องขอ การออกเสียง หรือขอพูดได้ ประมาณยกมือขอพูดนั่นแหละ...
Features อื่นๆ จำไม่ได้ละ แต่เยอะกว่าที่บอกมาเยอะพอสมควร Code ทั้งหมดเขียนด้วย C++ และ Adobe Flex/ActionScript สำหรับ Admin
ข้อเสียก็คือ โทรศัพท์ที่ใช้ตอนนั้นสนับสนุนแค่ h263 เลยไม่ได้ทำให้สนับสนุน h264 ตอนนี้ถ้าไม่สนับสนุน h264 ก็ต้องถือว่าห่วยแหละ :) [ใช้ libffmpeg]
Source code ยังอยู่กับผม (มีน้องคนสองคน ขอไปศึกษา เมื่อสามสี่ปีที่แล้ว ให้ไปแต่ก็จำไม่ได้แล้ว) ผมไม่ได้ให้ source code ไปด้วย แสดงว่า นอกจากน้องสองคน (น่าจะ ต๋อง กับ เทพ) ก็ไม่มีใครได้เห็น source code แน่ๆ
เท่าที่ทราบ หน่วยงานไทย ยังไม่มีหน่วยงานใดทำหน้าที่ Code Review, Back door scan หรือตรวจสอบจุดเสี่ยงใดๆ ในขั้นตอนการตรวจรับงานเลย
ยิ่ง Code Reviewer ไม่น่าจะมี...
แล้วถ้าผมแสบ เหมือนใครที่ทำอะไรไว้แสบๆ โดยหมกเม็ดไว้ใน Code ที่ผมเคยเขียนถึง (เมื่อประเทศไทยถูกจับเป็นตัวประกัน) เช่น เขียน Code ให้ Archive การประชุมไว้ใน temporary folder ที่ซ่อนไว้ แล้วทำ back door server สำหรับการ download archive นั้นกลับมา
ผมจะ...รู้การประชุมทั้งหมด รู้ความลับทั้งหมด นี่มันกระทบความมั่นคงของประเทศเลยนะ
คำถามคือ...เราควรมีกระบวนการ Code Review ในกระบวนการตรวจรับงานที่มีผลกับความมั่นคงของประเทศได้แล้ว (ที่ผ่านมากับตัว ยังไม่เคยมีกระบวนการนี้)
ไม่ทราบ....กระทรวงการคลังมีกระบวนการ Code Review แล้วหรือยังครับ... ถ้ายัง...เอ่อ...ขอไปทำด้วยได้แมะครับ ทำฟรีก็ได้นะ...